วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

พระพุทธยอดฟ้ามหาราช( ตอนที่ ๑ )






พระพุทธยอดฟ้ามหาราช

กษัตริย์นักรบ นักรัก นักกวี นักการทูต


                               ๐เรื่องพระพุทธยอดฟ้ามหาราช
                               ประวัติศาสตร์เบ็ดเตล็ดเป็นเกร็ดเล่า
                               อันคนไทยควรรู้อย่าดูเบา
                              จะได้เข้าใจเรื่องเบื้องโบราณ
                               กษัตริย์วงศ์จักรีบัดนี้เล่า
                               คือวงศ์พระร่วงเจ้าที่เล่าขาน
                               เป็นนักรบนักกวีมีตำนาน
                               เป็นนักการทูตฉลาดสามารถนัก
                               สืบมาแต่เจ้าพระยาโกษาปาน
                               เป็นนักการทูตเลิศประเสริฐศักดิ์
                               เป็นแม่ทัพกาจกล้าสามิภักดิ์
                               เป็นนักรักนักสวาทนาถอนงค์  ฯ
          
        พระพุทธยอดฟ้ามหาราช  ทรงเป็นมหาบุรษของชาติไทยผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งซึ่งบัดนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าสมควรเป็นมหาราช  จึงได้พร้อมใจกันถวายพระนามว่า "พระพุทธยอดฟ้ามหาราช" ตั้งแต่ปีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี  ทางราชการดูเหมือนจะเรียกพระนามว่า "พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช"   ตามข้อเสนอของพระเทพวิสุทธิเมธี (ปัญญานันทภิกขุ)  แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า "พระพุทธยอดฟ้ามหาราช"  มีความไพเราทางภาษาศาสตร์และสั้นกระทัดรัดเรียกง่ายดีกว่า  จึงขอให้คำนี้เหมือนกับที่เราเรียกพระมหาราชองค์อื่่นๆ สั้นๆ ว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  พระนเรศวรมหาราช พระนารายณ์มหาราช พระเจ้าตากสินมหาราช พระปิยมหาราช เป็นต้น  
        
        คนมักมองกันว่าพระองค์ท่านคือทหารเอกของพระเจ้าตากสินมหาราชเท่านั้น  แต่เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์กันอย่างถี่ถ้วนแล้ว  ก็จะเห็นว่าพระองค์ท่านคือพระมหาราชพระองค์หนึ่งของชาติไทย ถ้าหากว่าไม่มีพระองค์รับช่วงงานสร้างชาติต่อมาแล้ว  บ้านเมืองของเราคงจะไม่เป็นอยู่อย่างปัจจุบันนี้  คงจะเป็นเหมือนพม่่า เขมร ลาว ญวนนั่นแหละ

         ใครคงจะไม่ปฎิเสธว่าพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านคือพื้นฐานของสยามประเทศในเวลาต่อมา   แม้แผ่นดินสยามในรัชสมัยของพระองค์ก็กว้างใหญ่ไพศาลกว่าทุกวันนี้อีกเกือบเท่าตัว   ผู้คนพลเมืองในประเทศนี้ที่มีหลายเชื้อชาติทั้งเขมร ลาว มอญ รวมท้ังชาวไทยอิสลามที่มาอยู่ในประเทศไทยในเวลานี้นั้น  ล้วนแต่ได้อพยพติดตามกองทัพไทยมาในแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าโดยมาก  ถ้าหากใครจะเรียกว่าเป็นเชลยศึกถูกกวาดต้อนมา  ก็อยากจะย้อนถามว่ามีใครสักคนไหมอยากจะกลับไปอยู่ถิ่นฐานบ้านเดิม  และถ้ากลับไปอยู่แล้วจะมีความสุขกว่าที่อยู่ในแผ่นดินสยามนี้หรือไม่  เขาผู้นั้นก็คงจะตอบตัวเองได้ดีกว่าใครๆ  ก็แล้วถ้าเช่นนั้นจะไม่ขอบพระเดชพระคุณพระพุทธยอดฟ้ามหาราชบ้างเลยหรือ 
        
        บรรดาประชาชนชาวสยามทุกเชื้อชาติที่อยู่อาศัยทำมาหากินบนแผ่นดินนี้แม้ชนต่างชาติเช่นชาวจีนเขาก็ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณข้อนี้อยู่  ที่ได้มาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่เย็นเป็นสุข เขาจึงกระทำการตอบแทนคุณแผ่นดินนี้อยู่ตลอดมาไม่ขาดสาย  เมื่อถึงรุ่นลูกหลานเขาก็กลายเป็นคนไทยทำคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดินนี้นับตระกูลไม่ถ้วน  ข้อนี้ก็ควรจะยกให้เป็นพระบรมโพธิสมภารของพระพุทธยอดฟ้ามหาราชที่ปกป้องมาทุกวันนี้ 

        พระพุทธยอดฟ้ามหาราชนั้น จะว่าโดยทางวงศ์ตระกูลแล้วก็ทรงสืบสายโลหิตมาจากตระกูลขุนนางเจ้านายมาโดยไม่ขาดสายเป็นเวลากว่า ๕ ชั่วคนแล้ว  เป็นตระกูลที่สืบสายโลหิตมาอย่างประหลาดอัศจรรย์  คือเป็นตระกูลที่มีปรีชาสามารถ เป็นนักรบ  นักกวี นักการทูต  และเป็นตระกูลทีทรงศึลทางธรรมถึงขนาดเป็นนักบวชในทางพุทธศาสนาด้วย เพื่อยืนยันในข้อความที่กล่าวนี้ว่ามิได้ยกย่องจนเกินความสัตย์ความจริง  ข้าพเจ้าจึงขอลำดับความให้เห็นแต่โดยย่อดังต่อไปนี้  และขอออกตัวไว้ก่อนว่า  บทความนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นวิชาการหรือตำรับตำราอะไร  เป็นการเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟังเท่านั้น  

                                                               (โปรดติตตามตอนต่อไป) 
                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น