วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พระพุทธยอดฟ้ามหาราช (ตอนที่ ๑๒ )


     พระมหากษัตริย์ที่สืบสายพระโลหิตมาจากพระพุทธยอดฟ้าทุกพระองค์  ล้วนแต่เป็นนักกวี   นักการทูต  ตลอดมาทุกพระองค์
     พระพุทธเลิศหล้านภาลัย  ก็ทรงเป็นขัตติยกวีเอก
     กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์  ก็ทรงเป็นนักกวีเอก  คือ ทรงพระราชนิพนธ์นิราศแม่น้ำน้อย  และนิราศนรินทร์  ดังกล่าวแล้ว
     พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  ก็ทรงเป็นนักกวี   บทละครนอกเรื่องสังข์ศิลปชัย  นั่นคือบทพระราชนิพนธ์ 
     กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ  ก็เป็นนักกวี
     พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ก็เป็นนักกวี  มีอยู่หลายเรื่อง เช่น ปฐมวงศ์ เป็นต้น 
     พระปิยมหาราช  ก็ทรงเป็นนักกวี  เรื่องเงาะป่า  เรื่องนิทราชาคริต เป็นต้น
     พระมหาธีราชเจ้า  ก็เป็นนักกวี  มีอยู่มากมายหลายเรื่อง
     พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ก็ทรงเป็นนักคึตกวี
     พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช  ก็ทรงเป็นนักคีตกวี
     สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา  ก็ทรงเป็นนักกวี 

     นอกจากเป็นนักกวีแล้ว  ยังเป็นนักการศาสนา  อย่างชนิดที่เรียกว่าบวชจนตายในผ้าเหลืองก็มีอยู่หลายองค์  เช่น   
     สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ ๑ 
     สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์  พระราชโอรสกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์
     สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส  พระเจ้าลูกยาเธอในพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
     สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรศิริวัฒน์  พระราชนัดดาในพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
     สมเด็จกรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชนัดดาในพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
     
     ดูเหมือนว่าเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีนี้   ท่านจะสั่งสอนอบรมกันมาว่า "ให้ฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน"  ไม่ปรากฎว่าท่านสั่งสอนกันมาแต่ครั้งไหน  แต่พระราชจริยาวัตรของท่านดูเหมือนว่าถือปฎิบัติกันมาเช่นนี้ตลอดสายราชวงศ์  แม้จนในสุดท้ายปลายแถวแล้วก็เป็นเช่นนี้   ตัวอย่างเช่น  ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช และ ม.ล. ปิ่น มาลากุล  แม้จนสุดสายแล้วอย่างนายกิ่ง พึ่งบุญ ณ อยุธยา  และ นายก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา  ก็ยังเป็นนักประพันธ์มีชื่อว่ า "สุมทุม บุญเกื้อ"  และ "ไม้ เมืองเดิม"    
     เชื้อสายของพระพุทธยอดฟ้ามหาราชนี้  ถ้าไม่มีโอกาสจะรับใช้ชาติบ้านเมืองด้วยการเป็นข้าราชการพลเรือนและนายทหารแล้ว  ท่านก็จะเป็นนักกวีและนักประพันธ์  เชื้อสายเจ้านายใน  เชื้อสายเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีนี้ จึงเป็นนักประพันธ์กันมาก  น่าจะมาจากคติที่ถือกันมาว่า  "ขอฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน"  เป็นแน่ 

     ขอสรุปว่า  พระพุทธยอดฟ้ามหาราชและเชื้อสายในราชวงศ์จักรี  เป็นกษัตริย์นักรบ และนักกวี  นักการทูต  สืบสายพระโลหิตมาแต่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)  

     พระราชวงศ์จักรี ได้ครองแผ่นดินไทยนี้  สืบต่อกันมา ๒๐๐ ปีเป็นที่อัศจรรย์  ไม่มีพระราชวงศ์ใดครองแผ่นดินได้ยืนยาวนานเช่นนี้เลย  เพราะพระราชวงศ์จักรีนี้  เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม  สมดังพระปณิธานของพระพุทธยอดฟ้ามหาราชที่ว่า  

                                        "ตั้งใจจะอุปถัมภก
                                         ยกยกพระพุทธศาสนา
                                         ป้องกันขอบขัณฑสีมา
                                         รักษาประชาชนและมนตรี"  

(จบบริบูรณ์) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น